เหตุผลที่เราต้องขูดหินปูนคือ เพื่อขจัดคราบที่ติดบนผิวฟัน คอฟัน และบริเวณใต้เหงือก
สามารถช่วยลดปัญหาการเกิดกลิ่นปากและโรคเหงือกได้
ทางคลินิกขอแนะนำให้พบทันตแพทย์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้งนะคะ ^^
ทุกข้อควรรู้เกี่ยวกับการขูดหินปูน
คราบหินปูน เกิดจากแผ่นคราบแบคทีเรีย (Plaque) ที่เกาะตามฟัน โคนฟัน หรือซอกฟัน
ซึ่งไปทำปฏิกิริยากับน้ำลายจนทำให้เกิดการจับตัวสะสมขึ้น
เป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันหลายประการ
เช่น ฟันเหลือง มีกลิ่นปาก เหงือกอักเสบ ฟันผุ หรืออาจถึงขั้นทำให้สูญเสียฟันได้
ดังนั้นทันตแพทย์จึงแนะนำให้เราขูดหินปูนทุก 6 เดือน เพื่อสุขภาพปากและฟันที่แข็งแรง และลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาในช่องปาก
ขั้นตอนการขูดหินปูน
เริ่มแรกทันตแพทย์จะทำการตรวจสุขภาพฟันโดยละเอียด
เพื่อดูว่ามีปริมาณหินปูนมากน้อยเพียงใด รวมไปถึงตรวจด้วยว่ามีฟันผุ
หรือปัญหาทางช่องปากอื่นๆ หรือไม่ เพื่อประเมินการรักษา
ส่วนการขูดหินปูนนั้นขูดหินปูน ทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือขจัดหินปูนแบบที่มีแรงสั่นสะเทือนความถี่สูง
ทำให้หินปูนหลุดออก ซึ่งอาจทำให้รู้สึกเจ็บ เสียวฟัน และมีเลือดออกอยู่บ้าง
จากนั้นจึงใช้เครื่องมือชิ้นเล็ก (Hand Instruments) ขูดหินปูนโดยละเอียดอีกครั้ง
หลังเสร็จสิ้นขั้นตอนกำจัดหินน้ำลายหรือที่เรียกกันว่าหินปูนออกไปเรียบร้อย
ทันตแพทย์จะทำความสะอาดฟันและเคลือบฟลูออไรด์ให้
ก่อนจะให้คุณบ้วนปากเพื่อล้างคราบหินปูนออก
จากนั้นจะทำความสะอาดฟันด้วยไหมขัดฟัน และเคลือบฟลูออไรด์เพื่อช่วยป้องกันฟันผุ
ระยะเวลาในการขูดหินปูนจะขึ้นอยู่กับปริมาณของหินปูนในช่องปากของแต่ละคน
แต่โดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที
ภายหลังจากการขูดหินปูนอาจรู้สึกเจ็บหรือเสียวฟัน
และอาจมีเลือดซึมบริเวณเหงือกประมาณ 1 ถึง 2 วัน ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อยๆหายไปเอง
ข้อควรระวังในการขูดหินปูน
ผู้ป่วยโรคร้ายแรง เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคตับ และโรคที่เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด
ควรขูดหินปูนภายใต้การดูแลร่วมกันของทันตแพทย์และแพทย์
เพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการขูดหินปูนได้
ผู้ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจก็ไม่ควรขูดหินปูนด้วยเครื่องขูดหินปูนไฟฟ้าเช่นกัน
เพราะเครื่องขูดหินปูนไฟฟ้าจะไปรบกวนการทำงานของเครื่องกระตุ้นหัวใจ
จนทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ
แต่หากต้องการขูดหินปูนจริงๆ ต้องแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบก่อนทุกครั้ง
เพื่อให้ทันตแพทย์ขูดหินปูนโดยใช้เครื่องมือขูดหินปูนด้วยมือ
วิธีชะลอการเกิดคราบหินปูน
แม้จะเข้ารับการขูดหินปูนเป็นประจำทุก 6 เดือน
แต่บางคนก็อาจพบคราบหินปูนเกาะตามซอกฟันจำนวนมากภายหลังจากการขูดหินปูนเพียงไม่กี่เดือน
ซึ่งก็อาจทำให้เกิดความวิตกกังวลและสูญเสียความมั่นใจเวลายิ้มหรือสนทนา
ดังนั้น จึงควรดูแลฟันเพื่อชะลอการเกิดคราบหินปูนดังต่อไปนี้
แปรงฟันให้ถูกต้อง การแปรงฟันผิดวิธี จะทำให้เศษอาหารที่ตกค้างในช่องปาก หรือสะสมอยู่ตามซอกฟันไม่ได้หลุดออกไป จึงทำให้เกิดหินปูนและกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์ วิธีการ
แปรงฟันที่ถูกต้อง คือ
วางขนแปรงแนบกับเหงือก โดยเอียงขนแปรงเป็นมุม 45 องศา
หมุนข้อมือปัดขนแปรงจากเหงือก ผ่านตัวฟันโดยตลอด
ถ้าเป็นฟันบน ปัดลงล่าง ฟันล่างปัดขึ้นบน
แปรงฟันให้ทั่วทุกที่ ทั้งด้านนอก ด้านในของฟันบนและฟันล่าง
ส่วนฟันกราม ให้ถูไปมาตามแนวฟันทั้งซ้าย-ขวา จนสะอาด ควรใช้เวลาแปรงฟันประมาณ 2-3 นาที
แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น หรือทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร
เลือกใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เพราะฟลูออไรด์ช่วยเคลือบฟัน
จึงสามารถป้องกันฟันผุ และช่วยควบคุมการเกิดหินปูนได้
ใช้เบคกิ้งโซดาแปรงฟัน หนึ่งในวิธีที่ช่วยบรรเทาการเกิดหินปูนได้คือ
ใช้เบคกิ้งโซดาแทนยาสีฟัน โดยนำเบคกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ ผสมเกลือ ½ ช้อนชา
จากนั้นนำแปรงเปียกหมาดๆ แตะลงไปในส่วนผสมที่เตรียมไว้ แปรงฟันให้ทั่ว นานประมาณ 2 นาที หลังจากนั้นบ้วนปากให้สะอาด
งดสูบบุหรี่ จากงานวิจัยหลายชิ้นพบว่าผู้ที่สูบบุหรี่ จะมีหินปูนในช่องปากเร็วกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่
นอกจากนี้ สารทาร์และนิโคตินที่เกิดจากการสูบบุหรี่จะไปจับกับฟัน ทำให้ฟันเป็นสีน้ำตาลหรือสีเหลือง และยังทำให้เกิดกลิ่นปากไม่พึงประสงค์อีกด้วย