หลายคนอาจมีปัญหาที่เกี่ยวกับช่องปากมารบกวนจิตใจ บางคนอาจประสบปัญหามีกลิ่นปาก บางคนอาจมีปัญหาเรื่องของฟัน เช่น ฟันผุ เลือดออกตามไรฟัน มีหินปูน แรก ๆ ก็ไม่เท่าไหร่ แต่นาน ๆ ไปปัญหาภายในช่องปากเริ่มส่งผลรุนแรง ทำให้ขาดความมั่นใจและกระทบกับการใช้ชีวิต เราทุกคนจึงควรที่จะใส่ใจในเรื่องของการดูแลช่องปากของเราให้ดี
ปัญหาในช่องปาก เรื่องใหญ่กว่าที่คุณคิด
สาเหตุที่คนส่วนใหญ่มักละเลยที่จะทำการดูแลช่องปากอย่างสม่ำเสมอก็เพราะว่า ไม่ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากโรคในช่องปาก ซึ่งโรคต่าง ๆ ในช่องปากนั้นมีอยู่ด้วยกันหลากหลายมากมาย ทั้ง
- ร้อนใน: เป็นอาการแผลเปื่อยพองในช่องปาก มักจะเกิดขึ้นที่ริมฝีปาก ลิ้น กระพุ้งแก้ม สาเหตุเกิดจากภูมิต้านทานร่างกายต่ำลง จึงทำให้เยื่อบุในช่องปากเกิดแผล แม้โรคนี้จะไม่อันตราย แต่ก็สามารถก่อความรำคาญให้กับการใช้ชีวิต
- รำมะนาด: ในทางการแพทย์เรียกว่า ปริทันต์ ซึ่งก็คืออาการเหงือกอักเสบอย่างรุนแรง อาการจะมีเลือดออกที่เหงือก และทำให้เจ็บหรือปวดที่ฟันตามมา หากปล่อยไว้จะส่งผลเสียทำให้เกิดกลิ่นปาก และอาจรุนแรงจนถึงขั้นสูญเสียฟันได้
- กลิ่นปาก: ปัญหานี้จะทำให้เราสูญเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิต บางคนถึงขนาดไม่กล้าเข้าสังคม ซึ่งการมีกลิ่นปากมาจากหลายสาเหตุมาก ทั้งเกิดจากอาหารที่รับประทาน เกิดจากการเป็นรำมะนาด เกิดจากปัญหาฟันผุ เกิดจากความผิดปกติของต่อมน้ำลายและอีกมากมาย
- มะเร็งในช่องปาก: การละเลยเรื่องการดูแลช่องปาก อาจส่งผลรุนแรงจนมาถึงขั้นกลายเป็นมะเร็งในช่องปากได้ เบื้องต้นจะมีอาการเหมือนร้อนในภายในช่องปาก แต่จะเป็นนานกว่าปกติ จากนั้นภายในปากจากเริ่มมีฝ้าขาว มีปุ่มนูนลุกลามไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นมะเร็ง
การดูแลช่องปากอย่างเหมาะสมต้องทำอย่างไรบ้าง
จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่า เมื่อเราละเลยที่จะทำการดูแลช่องปาก จากปัญหาเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นภายในช่องปากอาจลุกลามเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้เราสูญเสียความมั่นใจหรืออาจอันตรายร้ายแรงต่อตัวเราถึงขั้นมะเร็งเลยทีเดียว เราทุกคนจึงต้องใส่ใจให้มากกับเรื่องการดูแลช่องปาก ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ทำได้ทุกวันอย่างสม่ำเสมอ แต่จะต้องทำให้ถูกต้องเหมาะสมดังนี้
1.แปรงฟันให้ถูกวิธี
การแปรงฟันควรทำวันละ 2 ครั้ง หรือ ตามมื้ออาหารก็ได้ ให้แปรงเบา ๆ นาน 3 – 5 นาที อีกสิ่งที่สำคัญก็คือ ต้องเลือกแปรงสีฟันให้เหมาะกับช่องปากของเราและแปรงควรจะมีส่วนโค้งงอ ขนแปรงก็ต้องไม่นุ่มจนขัดคราบไม่ออกและไม่แข็งเกินไปจนระคายเคืองเหงือก
2.บ้วนปากบ่อย ๆ
ในชีวิตประจำวัน เราอาจไม่สะดวกกับการต้องแปรงฟันบ่อย ๆ เราอาจใช้วิธีการบ้วนปากทดแทนก็ได้ ซึ่งหากเป็นไปได้ควรบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากที่ผสมฟลูออไรด์ นอกจากจะช่วยลดคราบที่ฟันได้แล้ว ยังช่วยเคลือบผิวฟันให้แข็งแรงด้วย
3.ขัดฟันด้วยไหมขัดฟัน
บางครั้งการแปรงฟันบ้วนปากอาจไม่เพียงพอ เพราะอาจจะยังมีเศษอาหารติดอยู่ตามซอกฟัน การใช้ไหมขัดฟันก็จะช่วยทำให้ฟันสะอาดขึ้น
4.เคี้ยวอาหารอย่างละเอียดด้วยฟันทุกซี่
การเคี้ยวอาหารก็นับเป็นการดูแลช่องปากแบบหนึ่งด้วย เพราะการเคี้ยวให้ละเอียดจะช่วยบริหารเหงือกและฟัน รวมถึงส่งผลดีต่อระบบย่อยอาหารด้วย
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของการดูแลช่องปากที่คุณควรรู้ ซึ่งคุณจะพบว่าเรื่องนี้จริง ๆ แล้วมีความสำคัญมาก เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่จริง ๆ เราทำได้ทุกวัน แต่อย่างไรก็ตามแม้เราจะดูแลช่องปากด้วยตัวเองแล้ว หากมีโอกาสก็แนะนำว่าควรไปพบทันตแพทย์ เพื่อทำการตรวจสุขภาพช่องปากบ้างก็ดี หากพบความปิดปกติใด ๆ ภายในช่องปากจะได้แก้ไขได้ทันนั่นเอง
ติดต่อนัดหมาย
สาขาอนุสาวรีย์ชัยฯ 065 663 5915
สาขาสุขุมวิท ซ. 3 (BTS นานา) 086 556 5665
สาขาประตูน้ำ 095 564 6565